31 มีนาคม 2553

E-Mailคืออะไร




หากคุณเป็นมือใหม่ท่อง internet ที่อยากจะรับรู้ข่าวสารผ่านโลก IT ให้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยสิ่งหนึ่งที่คุณจำเป็นจะต้องมีคือ e-mail address หรือจะเรียกง่ายๆ ว่าเป็นที่อยู่ของคุณในโลกไร้พรมแดน ซึ่ง ณ ที่อยู่นี้เองจะเป็น ทางผ่านของข้อมูลข่าวสารส่วนหนึ่งที่จะไหลบ่ามาสู่คุณ แต่ถ้าคุณยังนึกสรรพประโยชน์ของเจ้า e-mail address นี่ไม่ออกละก็ ลองหลับตาพริ้มแล้วนึกถึงตู้ป.ณ. หรือ P.O.Box ที่เปิดให้เช่าเป็นที่รับจดหมายตามที่ทำการไปรษณีย์ทั่วไป e-mail address ก็ทำหน้าที่ แต่มีข้อแตกต่างกันซักเล็กน้อย ตรงที่ e-mail address นั้นมีให้เลือกขอใช้แบบฟรีๆ มากมาย ไม่ต้องเสียสะตุ้งสตางค์เหมือนอย่างเจ้า P.O.Box และ หน้าตาของมันก็ไม่มีอะไรพิสดารนักหนา ตัวอย่างเช่น beginner@yahoo.com

ซึ่งจริงๆ แล้ว e-mail address ของคุณตัวนี้ ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ที่ใช้บอกความหมายกับตัวมันเองคือ

ส่วนแรกนั้น เป็นชื่อที่คุณจะใช้แทนตัวคุณเอง หรือที่ส่วนใหญ่เค้าเรียกว่า "user name" ตรงส่วนนี้ก็แล้วแต่คุณจะคิดค้นหาตามแต่ใจคุณปรารถนา แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ยกเว้นในส่วนที่ทางผู้ให้บริการ กำหนดมาว่าให้เป็นภาษาไทย และโดยมากจะมีความยาวไม่เกิน 8 ตัวอักษร
ส่วนที่สอง ก็คือเจ้าตัว @ นั่นเอง เป็นตัวคั่นกลางระหว่างชื่อของคุณกับชื่อของผู้ให้บริการ
ส่วนสุดท้าย ก็คือ ชื่อผู้ให้บริการ ที่คุณไปขอใช้บริการอยู่นั่นเอง เป็นเสมือนที่อยู่ของคุณว่าคุณอาศัยอยู่ ณ ที่ใด คลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับ คุณชื่อแดง@อยู่ จ.สุโขทัย โดยจะเป็นไปตามชื่อของ ผู้ให้บริการ free mail ที่คุณเข้าไปขอ แต่คุณเองก็มีโอกาสเลือกผู้ให้บริการได้ตามแต่ใจคุณต้องการ

E-Mail ย่อมาจาก EIectronic-Mail ระบบของ E-Mail มาจากความคิดที่ว่า ต่อไปนี้ข้อมูลข่าวสารจะถูกเปลี่ยนเป็นสัญญาณไฟฟ้า และส่งไปยังผู้รับโดยไม่ต้องพึ่งระบบไปรษณีย์อีกต่อไป และจะใช้กระดาษน้อยที่สุดหรืออาจจะไม่ใช้เลยก็ได้ตามปกติแล้วการติดต่อในระบบ E-Mail จะเป็นการติดต่อกันระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์จากจุดส่งไปยังจุดรับ โดยอาศัยศูนย์คอมพิวเตอร์เป็นฐานเก็บข้อมูล แต่การรับข้อมูลก็สามารถทำได้โดยการใช้ระบบ Videotex, เครื่อง word process, videoterminal, เครื่องโทรสาร ฯลฯ นอกเหนือไปจากการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์โดยลำพัง เมื่อจะส่งข้อมูล ผู้ส่งก็พิมพ์ข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ส่งผ่านโมเด็มเข้าศูนย์ข้อมูลของระบบ E-Mail โดยที่ทางจุดรับไม่จำเป็นต้องมีผู้รับอยู่ ทางจุดรับอาจจะเปิดเครื่องอุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้อยู่ตลอดเวลาก็ได้ถ้าต้องการเพื่อทำการรับข้อมูลทันที หรืออาจจะปิดเครื่อง แต่ก็สามารถเรียกดูข้อมูลตามเวลาที่ต้องการเมื่อไรก็ได้ โดยการใช้รหัสประจำตัว


การใช้ระบบ E-Mail มีข้อได้เปรียบกว่าการสื่อสารแบบปกติดังนี้

๑.รวดเร็ว เชื่อถือได้ และสะดวกในการสื่อสารมากกว่าระบบไปรษณีย์ธรรมดา
๒.ลดค่าใช้จ่ายในการสื่อสารได้เป็นอย่างมาก
๓.ตามปกติแล้วจะเป็นการสื่อสารที่ไม่ใช้กระดาษเลยนอกจากในบางครั้งต้องการจะเก็บข้อมูลไว้เป็นเอกสาร ก็สามารถบันทึกลงกระดาษเก็บไว้ได้
๔.ไม่มีการเคลื่อนย้ายทางด้านกายภาพจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ทำให้ไม่เปลืองเวลา
๕.เมื่อเปรียบเทียบกับการส่งข้อมูลทางโทรศัพท์ ไม่จำเป็นต้องมีผู้รับปลายทางอยู่ด้วย ข้อมูลสามารถส่งไปเก็บและส่งต่อไปยังผู้รับในภายหลังจากสถานที่ใดก็ได้
๖.อาจมีการขยายเครือข่ายเป็นการประชุมย่อยได้

Webboard คืออะไร





Webboard คืออะไร
WebBoard
คือโปรแกรมที่ทำหน้าที่ในลักษณะเป็น กระดานสนทนา เป็นกระดานแจ้งข่าวสาร ข้อมูล และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยใช้รูปแบบการแสดงผล HTMLที่นิยมใช้ใน World Wide Web.. WebBoard อนุญาตให้ผู้เยี่ยมชมเวปไซต์ และผู้พัฒนาเวปไซต์ สามารถตั้งหัวข้อกระทู้ เพื่อประกาศข่าวสาร แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ ซึ่งจะมีความแตกต่างจาก GuestBook ตรงที่ WebBoard จะสามารถแยก หัวข้อต่างๆ ออกเป็นกระทู้ๆ มีความโต้ตอบกันในการสนทนา ในหัวข้อเดียวกันมากกว่า กล่าวได้ว่า WebBoard คือพัฒนาการในรูปแบบใหม่ ของระบบการสนทนาใน BBS (Bulletin Board System) ที่เคยได้รับความนิยม ก่อนที่ระบบเครือข่าย Internet จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น WebBoard ที่พบเห็นกัน มีอยู่หลายรูปแบบ สำหรับโปรแกรม D'Board ที่เปิดให้ใช้บริการนี้ จะเป็น WebBoard ในลักษณะเดียว (รูปแบบคล้าย) กับที่ใช้ใน pantip.com

ข้อดีของการใช้ Webboard
เป็นช่องทางในการติดต่อ ประกาศข่าวสาร ข้อมูล และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้
ทำให้เกิดสังคม ในการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ระหว่างกลุ่มผู้เยี่ยมชม
ผู้พัฒนาโฮมเพจ สามารถใช้เป็นช่องทางในการ ประกาศข่าวใหม่ๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่นได้
ง่ายในการใช้งาน แม้จะเป็นผู้เริ่มต้น เมื่อเทียบกับการใช้ Mailing list หรือ News Group

ข้อดีของการใช้ D'Board
ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม CGI script
ไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรม CGI script ใน Server เอง
สามารถนำไปใช้ได้ แม้ว่า Server ของคุณจะไม่อนุญาตให้ติดตั้ง CGI script ได้เอง
สามารถกำหนดรูปแบบ ของหน้าต่างๆ ของ WebBoard ของคุณได้เอง โดยผ่านระบบการจัดการที่เตรียมไว้ให้
สามารถใช้ HTML code แตกหน้าตา หน้าต่างๆของ WebBoard ของคุณได้ (รวมถึง Java และ Javascript ด้วยเช่นกัน)
สามารถลบ และแก้ไข ข้อความ ที่มีผู้มาลงไว้ใน WebBoard ได้
สามารถใช้งานได้ ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นด้วยเวลาไม่ถึง 3 นาที ในการกรอกแบบฟอร์ม สมัครเป็นสมาชิก คุณก็สามารถ นำ WebBoard ของคุณไปใช้งาน ในโฮมเพจหรือเวปไซต์ ของคุณได้ทันที
และอื่นๆ...

MSN คืออะไร





MSN คืออะไร

MSN เป็นโปรแกรมอินสแตนท์เมสเซนเจอร์ (Instant Messenger คือ โปรแกรมส่งข้อความข้ามระบบเครือข่ายแบบทันทีทันใด หรือ IM) จากบริษัทไมโครซอฟท์ หรือที่คนไทยเรียกสั้น ๆ ว่า "เอ็มเอสเอ็น" หรือ "เอ็ม" ปัจจุบันสามารถส่งสื่ออื่น ๆ นอกเหนือจากข้อความ เช่น วีดีโอ, เสียง แบบทันทีทันใด นอกเหนือไปจากการส่งไฟล์ข้อมูล เช่น ไฟล์เอกสารเวิร์ด ไฟล์เพลง หรือไฟล์ประเภทอื่น ๆ ผ่านทาง MSN ได้อีกด้วย
หน้าตาของโปรแกรม msn ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสองส่วน

1. หน้าต่างหลัก: ที่หน้าต่างนี้จะแสดงชื่อของเพื่อนๆ เราครับ ทั้งคนที่ online และ offline ซึ่งเวลาเราจะคุยกับเพื่อนคนไหน ก็สามารถดับเบิ้ลคลิ๊ก ที่ชื่อแล้ว หน้าต่างอีกอันจะแสดงขึ้นมา (รูปด้านขวามือ) เราก้อสามารถพิมพ์ข้อความส่งให้เพื่อนได้ทันที

2.หน้าต่างที่เราคุยกับเพื่อน: ที่หน้าต่างนี้เราสามารถพิมพ์ข้อความ คุยกับเพื่อนได้ทันที แล้วคุณยังสามารถให้ msn แสดงรูปภาพของเรา โดยที่ ทางฝั่งเพื่อนของเรา ก็จะเห็นรูปดังกล่าวเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถส่ง icon ต่างๆ เพื่อสื่ออารมณ์ เพิ่มความสนุกสนานในการ chat ได้อีกด้วย

ที่สำคัญก่อนใช้ ผู้ใช้ต้องมี Email ของ Hotmail หรือ MSN ก่อนอันดับแรก หากใครไม่มี ต้องไปสมัครที่ www.hotmail.com

Blog คืออะไร




Blog คืออะไร

มารู้จักความหมาย ของประโยคคำถาม ที่มักจะมีคนถามผมบ่อย ๆ เวลาไปบรรยายตามที่ต่าง ๆ ว่า “Blog คืออะไร” กันดีกว่า

Blog มาจากศัพท์คำว่า WeBlog บางคนอ่านคำ ๆ นี้ว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งสองคำบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่านั่นคือบล็อก (Blog)

ความหมายของคำว่า Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทำให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเอง ใส่ลงไปในบทความนั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวตนเอง

มีหลายครั้งที่เกิดความเข้าใจกันผิดว่า Blog เป็นได้แค่ไดอารี่ออนไลน์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไดอารี่ออนไลน์เปรียบเสมือน เนื้อหาประเภทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น เพราะบล็อกมีเนื้อหาที่หลากหลายประเภท ตั้งแต่การบันทึกเรื่องส่วนตัวอย่างเช่นไดอารี่ หรือการบันทึกบทความที่ผู้เขียนบล็อกสนใจในด้านอื่นด้วย ที่เห็นชัดเจนคือ เนื้อหาบล็อกประเภทวิจารณ์การเมือง หรือการรีวิวผลิตัภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตัวเองเคยใช้ หรือซื้อมานั่นเอง อีกทั้งยังสามารถ แตกแขนงไปในเนื้อหาในประเภทต่าง ๆ อีกมากมาย ตามแต่ความถนัดของเจ้าของบล็อก ซึ่งมักจะเขียนบทความเรื่องที่ตนเองถนัด หรือสนใจเป็นต้น

จุดเด่นที่สุดของ Blog ก็คือ มันสามารถเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่อถึงความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียนบล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่ชัดเจนของบล็อกนั้น ๆ ผ่านทางระบบ comment ของบล็อกนั่นเอง

ในอดีตแรกเริ่ม คนที่เขียน Blog นั้นยังทำกันในระบบ Manual คือเขียนเว็บเองทีละหน้า แต่ในปัจจุบันนี้ มีเครื่องมือหรือซอฟท์แวร์ให้เราใช้ในการเขียน Blog ได้มากมาย เช่น WordPress, Movable Type เป็นต้น

ผู้คนหลายล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก หันมาเขียน Blog กันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่นักเรียน อาจารย์ นักเขียน ตลอดจนถึงระดับบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้น NasDaq

เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา Blog เริ่มต้นมาจาก การเขียนเป็นงานอดิเรก ของกลุ่มสื่ออิสระต่าง ๆ หลาย ๆ แห่งกลายเป็นแหล่งข่าวสำคัญ ให้กับหนังสือพิมพ์หรือสำนักข่าวชั้นนำ จวบจนกระทั่งปี 2004 คนเขียน Blog ก็ได้รับการยอมรับจากสื่อและสำนักข่าวต่าง ๆ ถึงความรวดเร็วในการให้ข้อมูล ตั้งแต่เรื่องการเมือง ไปจนกระทั่ง เรื่องราวของการประชุม ระดับชาติ

และจากเหตุการณ์เหล่านี้ นับได้ว่า Blog เป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจาก วีดีโอ , สิ่งพิมพ์ , โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งวิทยุ เราสามารถเรียกได้ว่า Blog ได้เข้ามาเป็นสื่อชนิดใหม่ ที่สำคัญอย่างแท้จริง

สรุปให้ง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือ Blog คือเว็บไซต์ ที่มีรูปแบบเนื้อหา เป็นเหมือนบันทึกส่วนตัวออนไลน์ มีส่วนของการ comments และก็จะมี link ไปยังเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย